
ความรักในวงการ จางเร็วซะยิ่งกว่าลมตด !
ตอนรักกันใหม่ๆก็เหมือนกับช่วงห้างเซ็นทรัลลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ เห็นราคาก็น่าซื้อไปโม้ด
แต่พอรักจางก็ไม่ต่างอะไรกับช่วงหมดโปรโมชั่นไม่ขยันช้อปเหมือนเดิม
อย่าหาเลยกับ “ความเสมอต้นเสมอปลาย”
ไอ้พวกที่ให้สัญญิงสัญญาก่อนจีบว่าจะดีอย่างนั้นขยันอย่างนี้ล่ะก็
ขอบอกว่า “ตอแหล” ทั้งเพ !
ยิ่งความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่ต้องได้มาด้วยความถูกต้อง
ถ้าทำผิดครองธรรม ระวังบาปกรรมจะตามสนอง !
ยิ่งเดี๋ยวนี้ “กรรมติดจรวด” อยู่ด้วย ไม่ต้องรอเห็นชาติหน้าให้เสียเวลา แค่ชาตินี้ดีไม่ดีก็ได้เห็นกันแล้ว
พูดถึงความรักของคนวงการบันเทิงที่ “หมดโปรโมชั่น” กันเร็วแล้ว ก็ขอกล่าวถึงคู่รักคู่ฮอตที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ซักนิดเหอะ
หากได้อ่านข่าวกันมาบ้างแล้ว สำหรับคู่ของ ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช กับสาวแป้ง-อรจิรา แหลมวิไล ล่ะก็
“เจ๊เขียว” ขอบอกว่า งานนี้มีลึกกว่าที่เคยอ่านกันดาษดื่น
หลานคนพยายามแสวงหา “ข้อเท็จจริง” เหตุใดทำไมจึงเลิก ?
จะพูดไปไม่เชื่ออย่าลบหลู่ไม่รู้อย่าดูหมิ่นนะเอ้า !
ก่อนหน้าฟลุคก้าวเท้าเข้าแข่งขันรายการอื้อฉาว “ซุปเปอร์สตาร์” ไม่นาน
มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น เมื่อปรากฏว่าบ้านที่ฟลุคเคยซุกหัวนอนอยู่ทุกค่ำคืน
เกิด “เตียงหัก” !
ซึ่งต้องขอย้ำ ย้ำ และก็ย้ำว่า...ไม่ใช่เป็นความหมายเปรียบเปรยว่า “เลิกกัน” แต่หมายถึง “เตียงนอนหัก” จริงๆ
จู่ๆเตียงนอนก็หักโครมลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ของเค้าแรงจริงๆ !
นั่นเป็นอาถรรพ์ “ลางอัปมงคล” ก่อนจะเกิดเรื่องร้ายในเวลาต่อมา
ส่วนเหตุผลที่ฟลุคกับแป้งเลิกกัน อันเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากรู้กันนักหนานั้น
ดูเหมือนฟลุคจะพยายามเบี่ยงปรัเด็นไปเป็นเรื่อง “มือที่สาม”
โดยโยนเรื่องร้ายป้ายสีว่า แป้งมีคนใหม่
ซึ่งเจ๊ในฐานะที่เป็นสุภาพสตรีเช่นเดียวกับแป้งจึงขอออกมาประณามว่า
การกระทำเช่นนี้ “ไม่สุภาพบุรุษ” เอาซะเลย !
ทั้งที่แท้จริงแล้ว “ต้นตอ” ของปัญหาทั้งมวลมาจาก ฟลุค คนเดียว !
ตอนที่ทั้งคู่ก่อร่างสร้างรักกันใหม่ๆนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีส่วนสำคัญที่ทำให้ครอบครัวของ 3 พ่อแม่ลูก “ฟลุค-โบ-อชิ” ต้องลงเอยด้วยการ “ครัวแตก” !
ก็เพราะฟลุค ต้องการเริ่มต้นชีวิตรักใหม่แป้ง ซึ่งเธอเองก็เรียกร้องต้องการความชัดเจนจากฟลุค จึงทำให้เรื่องราวลงเอยเช่นนั้น
เมื่อฟลุคพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “รักจริงจัง” ขนาดดิ้นรนจนได้ “ใบหย่า” แป้งจึงยอมเปิดใจให้เต็มร้อย คบหากันอย่างเปิดเผย
เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ เป็นว่าเล่น อย่างกะเป็น “คู่ฮันนีมูน”
คนเราอย่างที่เค้าบอก “ต้องอยู่ใกล้จึงได้เห็นธาตุแท้”
ตอนเป็นแฟนกันก็ยังเห็นแค่ผิวเผินฉาบฉวย แต่พออยู่ด้วยทุกวัน ดีเลวชั่วช้าสามารย์ก็ผุดออกมา
ถ้าพูดถึงฟลุคก็ไม่ได้เลวอะไรหรอก แต่เป็น “นิสัยติดตัว” หรือว่ามี “สันดอน” ที่ขุดไม่ได้ แก้ไม่หายอยู่อย่างหนึ่งที่ทำให้ใครอยู่ด้วยได้ยากส์
นั่นคือความเจ้าระเบียบ
ฟลุค เป็นผู้ใหญ่เกินตัว รับผิดชอบตัวเองสูง แถมยังแผ่รังสีไปยังคนรอบข้างจนอึดอัด
ขณะที่ แป้ง นั้นก็เป็นคน “รักอิสระ”
เรียกว่าเป็น “คู่คนละขั้ว” กันเลย
ซึ่งมองอย่างไรก็เข้ากันไม่ได้ตั้งแต่แรก
แต่ในความแตกต่างนั้น ตอนแรกทั้งคู่มองว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เพราะคิดว่า “ความรัก” จะช่วยให้ “ปรับตัวเข้าหากันได้”
แต่เมื่อถึงเวลานี้ทั้งคู่รู้แล้วว่า “คิดผิด”!
ตอนที่แป้ง เดินจาด ภูริ หิรัญพฤกษ์ แฟนเก่ามานั้น ก็ด้วยเหตุเดี๋ยวกันนี้เด๊ะ
นั้นคือ “ถูกจำกัดอิสรภาพ”
อย่าลืมว่า แป้ง เป็นสาวแก๊งปาร์ตี้เกิร์ล อันประกอบด้วย แป้ง, สุ่ย พรณภา, เมย์ พิชญ์นาฏ, วุ้นเส้น วิริฒิพา
แต่ละนางครบเครื่องเรื่องกินดื่มระดับ “ตัวแมj” ทั้งนั้น
ยิ่งด้วยวันแค่ 20 ต้นๆ แป้ง รู้สึกกินเที่ยวยังไม่เต็มอิ่ม ยังอยากไปแฮงค์กับเพื่อน อยากไปดิ้น ไปเหล่ผู้ชาย
แต่คราว ภูริ ก็แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกับ แป้ง ห้ามไม่ให้กินไม่ให้เที่ยว
สาวเปรี้ยวอย่างแป้ง ก็เลยติดปีกโผบินออกมาหาอิสรเสรีมันซ่ะเลย
พอมาเจอกับฟลุคตอนแรกก็สนุก เพราะว่าฟลุคก็เป็นนักเที่ยวมีระดับ
สำหรับผู้ชายคนนี้แล้ว “ทุกอย่าง” ต้อง “นัมเบอร์วัน” เท่านั้น
หาเงินเก่งแค่ไหน ฟลุค ก็ใช้เงินเก่งเท่านั้น
แรกๆ แป้ง จึงหลง ฟลุค หัวปักหัวปำ เพราะเป็นเจ้าบุญทุ่มและสรรหาแต่สิ่งดีๆมาประเคนเสมอๆ
ยิ่งประกอบกับหลงไปกับคำทำนายอีกด้วยว่า “เนื้อคู่” ของแป้งเป็น”พ่อม่าย”หรือ “ผู้ชายมีตำหนิ”
ทุกอย่างเข้าล็อคเป๊ะ จึงไม่แปลกใจที่ทำให้แป้งถลำลึก ถึงกับยอมเจ็บตัวเจ็บปวดกับการถูกตราหน้าด้วยข้อหา “มือที่สาม” จนเสียน้ำตาไปหลายโอ่งในเวลานั้น
พอ “ฟ้าหลังฝน” ก็ทำให้แป้ง สดใสกับความรักสมกับที่ต้องทรมานนานนับเดือน
แต่ “ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน”
เมื่อปรากฏว่าสิ่งที่ตัวเคยหนีได้ตามมาหลอกหลอน แป้ง อีกครั้ง
การที่สะบั้นรักกับ ภูริ แล้ว โผมาหา ฟลุค มันไม่ต่างอะไรกับ “หนีเสือปะจระเข้”
เพราะเคยถูก ภูริ ตีกรอบอย่างไร แป้ง ก็ถูก ฟลุค ปฏิบัติอย่างนั้น แถมยังหนักหนายิ่งกว่า!
ทุกอย่าง ฟลุค วางกฎระเบียบชีวิตให้ แป้ง หมด ดีไม่ดี “ชี้” ก็อาจวางกำหนดการเอาไว้ให้
ในที่สุดก็ “เตียงหัก” เหมือนอย่างกับที่ฟลุคนอนนิมิต
ส่วนข้อหา “มือที่สาม”ที่
ฟลุค กล่าวหาแป้งนั้นมีจริงมั้ย?
หรือใครกันแน่ที่ “ซุกกิ๊ก”!!
เอาไว้ตอนหน้าถ้ามีเสียงเรียกร้อง “เจ๊เขียว” อาจกลับมาแฉ “ตอนสอง” ก็ได้
ที่มา http://www.tv-inside.net/y5/iss269/column/jae_kiew.html
{mosloadposition user26} | {mosloadposition user27} |
{mosloadposition user28} |