
![]() |
“ศัลยกรรมความงาม” นับวัน เริ่มจะสยายปีก หลังจากที่เคยมองว่า “ศัลยกรรม” นั้นเป็นเรื่องของเพศหญิงแต่อย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมหน้าอก, ทําจมูก, กรีดตาสองชั้น, เสริมแก้ม, เสริมคาง, ทําหน้าใส ฯลฯ ความคิดนี้คงจะไม่จํากัดอยู่แต่ “เพศหญิง” อีกต่อไป ในยุคที่ผู้ชายสําอางกว่าปกติ ยุคที่ผู้หญิงเห็นว่าการที่มีหน้าอกหน้าใจใหญ่โต, จมูกโด่ง, ดวงตาสวย ฯลฯ เป็นเครื่องเชิดชูความงามและคุณค่าอย่างแท้จริง คนที่เป็นผู้ชายแท้ๆ กลับลุกขึ้นหันมาพึ่งศัลยกรรมกันแล้ว กรณีนี้เกิดขึ้นเหตุเพราะอุปสรรคเรื่องของ “ขนาดของอวัยวะเพศ” เป็นสําคัญ ซึ่งอาจจะสั้นกว่าผิดปกติ หรือรู้สึกไม่พอใจในขนาดของอวัยวะเพศของตัวเองจึงต้องหันมาพึ่งการอัพไซส์ “แท่งอ้อย” ในนิตยสาร “แมรี แคลร์” ฉบับล่าสุดได้นําเสนอข้อมูลทําให้รู้สึกตกใจว่า ผู้ชายไทยนั้นเข้าคิวเพิ่มอวัยวะเพศกว่า 1,000 คนต่อปี และจากการเปิดเผยของโรงพยาบาลที่บอกว่าผู้ชายไทยที่มาปรึกษาเรื่องการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศนั้นร้อยละ 90 เป็นกลุ่มที่มีขนาดอวัยวะเพศปกติ แต่กลับไม่พึงพอใจในอวัยวะเพศของตัวเอง คุณคิดเห็นอย่างไรบ้างกับข้อมูลที่ได้รับเหล่านี้ เพราะมันได้แสดงให้เห็นถึงว่า “ขนาดของอวัยวะเพศ” นั้นคือ “ศักดิ์ศรีของชายไทย” หาก “แท่งอ้อย” มีขนาดใหญ่นั่นก็หมายถึง “ศักดิ์ศรีและเกียรติยศ ที่ใหญ่คับฟ้า” ได้รับการยกย่องเชิดชูว่าเป็น “ยอดชาย” จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นชายไทยเดินพาเหรดเข้าศัลยกรรมเพิ่มไซส์ขนาด “แท่งอ้อย” กันถ้วนทั่ว ชายไทยบางคนอาจจะไม่มีเงินมากพอ จึงหันไปเพิ่มไซส์ “แท่งอ้อย” ด้วยวิธีผิดๆ และเสี่ยงต่ออันตรายโดย “การฉีดซิลิโคน” ทาง “ดาราเดลี่” ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าววงในที่เชื่อถือได้ว่า หนึ่งในบรรดาชายไทยเหล่านั้นปรากฏร่างของพระเอกหนุ่มคมเข้มแห่งช่องดังได้เข้าทําการผ่าตัดเพิ่มความยาวใหญ่ของ “แท่งอ้อย” นอกจาก “พระเอกหนุ่ม” แล้วยังมีเหล่านักการเมืองและไฮโซหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ผ่าตัดอัพไซส์ด้วยเช่นกัน ด้วยสนนราคาค่าผ่าตัดเริ่มต้นที่สองแสนบาท แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่คิด เพราะการผ่าตัดเพิ่มไซส์อวัยวะเพศนั้น “เจ็บ” ไม่ต่างอะไรกับการที่ “สาวประเภทสอง” เข้าผ่าตัดแปลงเพศเลยทีเดียว อีกทั้งการดูแลหลังผ่าตัดและสภาพการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และในช่วงการพักฟื้นนั้น คนไข้ต้องงดการดื่มสุรา, สูบบุหรี่และงดร่วมเพศหรือสําเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเป็นเวลานานถึง 6 สัปดาห์ ผลแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น คือ การมีเลือดหรือน้ำเหลืองคั่ง ส่งผลเกิดการติดเชื้อ, การแยกของแผล, นอกจากนี้ปัญหาเรื่องการตายของเนื้อ และการขาดความรู้สึกซึ่งในกรณีนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก จึงเกิดคําถามให้คิดต่อที่ว่า “ศักดิ์ศรีที่เกิดจากการ “อัพแท่งอ้อย” นั้นให้อะไรบ้างกับชีวิต?♦ |
ที่มา http://www.daradaily.co.th/th/news/newsdetail.php?newsid=6686